การดูแลรักษารถเต่าสุดที่รักให้อยู่กับเราไปได้นานๆ
เราจะต้องมีตารางการตรวจเช็คเป็นช่วงเวลาดังนี้
1.สิ่งที่ต้องตรวจเช็คทุกวัน(daily) คือ
*1.1 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระดับน้ำมันเครื่อง โดยปรกติ เราเติม 2.5 ลิตร ส่วนมากแล้วปัญหาที่เพื่อนเจอกันบ่อยคือ มีรอยรั่วของน้ำมันเครื่องออกมาตามจุดต่างๆดังนั้นอาจทำให้ระดับพร่องลงไปได้ ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบดังนี้
เปิดฝาครอบเครื่องหลัง เช็คแกนเช็คระดับน้ำมันเครื่องและความหนืด โดยดึงแกนออกมาดูตามระดับที่เหมาะสมไม่ควรต่ำเกินขีดล่างหรือสูงเกินขีดบนดังรูป ที่ 2 และ3 เมื่อดึงแกนออกมาแล้วควรเช็ดด้วยผ้าให้สะอาดแล้วจิ้มลงไปวัดจะได้ระดับจริงของน้ำมัน หากระดับพร่องไปก็ต้องมี น้ำมันพร้อมเดิมได้เสมอ
1.2 ระดับน้ำมันเชื้อเพลงในถังเก็บ เพราะเมื่อเราออกเดินทางไปแล้วน้ำมันจะไม่หมดกลางทาง
1.3 ตรวจหลอดไฟทุกดวงว่าทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ ไฟส่องสว่าง ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง
1.4 ทดสอบการหมุนของที่ปัดน้ำฝนว่าหากมีฝนตกกลางทางจะสามารถใช้งานได้ดีอยู่ไหม รวมไปถึงน้ำฉีดล้างกระจกด้วย 1.
2. การตรวจเช็คประจำสัปดาห์ ( Weekly)
* 2.1 แบตเตอรี่ ก็มีความสำคัญเช่นกัน หากใช้ไปนานแล้วระดับน้ำกลั่นจะพร่องไป ดังนั้นเราต้องตรวจสอบทุกอาทิตย์ การเติมน้ำกลั่นก็ต้องเดิมให้อยู่ในระดับ ของแต่ละเซล กำหนดไว้ ข้อควรระวังในการเติมน้ำกลั่นคือ ระวัง น้ำกรดจะกระเด็นเข้าตา หรือ โดยผิวหนัง สิ่งที่ควรระวัง อีกอย่างคือ ระวังอย่าให้ขั่วบวก ช็อตกับกราวด์หรือตัวถึง จำทำให้ไปถูก ดีสชาจ์จออกไปได้ หรือเกิดประกายไฟได้
หากรถเพื่อนไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย หรือจอดเป็นเวลานาน ดังนั้น 2-3 วันก็ควรมีการวอร์มเครื่องบ้าง 15-30 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์ได้ทำงานบ้าง และ แบตเตอรี่ ก็จะได้มีการคายและเก็บประจุบ้าง ระวังอย่าให้ขั้วต่อสายไปถูกน้ำกรด เพราะจะทำให้เป็นขี้เกลือได้ ดังนั้นก็ควรที่จะตรวจสอบความแน่นของขั้วต่อด้วย และ เนื่องจากรถเต่า แบตเตอรี่จะอยู่ใต้เบาะดังนั้นสิ่งที่ต้องระวังคือ การให้แบตเตอรี่แบบขั้วลอย ควรมีฉนวนหรือผ้าวางบนขั้วแบต ด้วยเพื่อป้องกันขั้ว ช็อตกับลวดใต้เบาะได้ ดังนั้นควรใช้แบตเตอรี่แบบขั้วจม เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
3. การตรวจเช็คประจำเดือน (Monthly )
* 3.1 สายพาน เจ้าสายพานที่มีหน้าที่อยู่ 2 อย่างคือ ประการแรก ใช้ขับตัวปั่นไฟ Generator หรือ ไดสตาร์ต สองเป็นตังส่งต่อกำลังเพื่อหมุนพัดลม ระบายความร้อน โดยส่งกำลังมาจากเครื่องยนต์ ดังนั้นจะเห็นมันมีความสำคัญมาก สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ตรวจสอบระดับความตึง ควรอยู่ในระยะที่พอดี คือเมื่อเราใช้มือบีบสายพานทั้งสองด้านเข้าหากัน ระยะการยืดตัวควรอยู่ประมาณ 1/2 - 3/4 นิ้ว หรือ (9-10 mm) หาก มีระยะเกินนี้ก็จะต้องทำดังนี้
- การปรับความตึง สามารถทำได้โดย ขันน็อตที่ยึดสายพานที่ ไดชาร์จ ออก แล้ว เอาวงแหวนที่ใส่ออกที่ละวงแล้วประกบกับทดสอบจนได้ระยะที่เหมาะสมแล้วจึงขันน็อตล็อก แต่หแวนที่ถอดออกมาควรใส่ไว้ด้านนอกของฝาประกบเพราะอาจจะทำให้ศูนย์หายได้ภายหลัง
- หากสายพานหย่อนเกินไปจนไม่สามารถปรับได้จึงก็ควรมีการเปลี่ยน ให้ ซึ่งการเปลี่ยนก็ทำคล้ายกับการปรับดังกล่าว
* 3.2 ทำความสะอาดกรองอากาศ ก็เป็นสิ่งที่ทำคัญเพราะเป็นทางผ่านของอากาศที่เข้าไปผสมในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
- แบบกรองน้ำมัน เราสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้โดย ถอดสกรูออกมา เทเอาน้ำมันเครื่องที่เติมลงไปออก พร้อมทั้งอาจจะใช้น้ำมันเบนซิลล้างให้สะอาด แล้วเมื่อแห้งก็ต้องเติมน้ำมันเครื่องลงไปให้อยู่ในระดับสีแดงที่ขีดไว้ที่ฝาด้านใน
- แบบ กรองกระดาษ สามารถถอดมา เป่า ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใหม่เมื่อมีคราบสกปรกมาก หรือใช้งานมาเกิน 30 000 กม. ไม่ควรให้กระดาษโดนคราบน้ำมัน หรือน้ำ เพราะจะทำให้กระดาษเปื่อยได้เร็วขึ้น
ยังไงก็ตามควารทำความสะอาดท่อลมเข้าด้วยเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
4.ทุก 3เดือน Every Three Months ( or 3000 miles ) สิ่งที่ต้องทำคือ
*4.1 การตรวจสอบหัวเทียน ระยะห่าง หรือ gap คือ 0.6 - 0.7 mm (0.024-0.027 inch).
หรือตรวจเช็ค สภาพการเผาไหม้ดังรูป อาจจะต้องมีการทำความสะอาดตามสภาพ ดังรูป
4.2 การตั้งไฟใหม่ ก็สามารถทำได้ดังนี้
4.3 การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง ในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใช้ 2.5 ลิตร และ สามารถเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องได้โดย ถอดน็อต ใต้เท็งเครื่อง แล้วเปลี่ยนได้เลย
4.4 การตั้งวาล์ว จะนำมาเสนอภายหลัง
4.5 ล้าง คาร์บูเรเตอร์ การล้างสามารถทำได้โดยถอดคาร์บูเรเตอร์ออกมา แล้ว ทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิล ตามท่อการจ่ายน้ำมันและอากาศ ซึ่ง จะนำมาเสนอภายหลัง
4.6 ระบบจ่ายไฟ เช่น
- สายหัวเทียน
- หน้าทองขาว ก็จะต้องมีการทำความสะอาดละตรวจระยะห่าง รวมไปถึงหน้าสัมผัส ของ ฝาครอบ หรือ กะลา
-
5. รอบ 12 เดือน หรือ Every Twelve Months ( or 12,000 miles )
*5.1 ควรเปลี่ยน หัวเทียน หากมีการใช้งาน ประมาณ 19200 กม.
หมายเหตุ สิ่งที่ควร มีประจำรถ
1. สายพาน
2. สายครัช
3. สายคันเร่ง
4. หน้าทองขาว
5. น้ำกลั่น
6. หัวเทียน
7. สายลาก(หากจำเป็นต้องใช้) พร้องทั้งเครื่องมือต่างๆ